สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ พระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยนเรศวร ประจำปีการศึกษา 2566 วันที่ 11 มีนาคม 2568

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ พระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยนเรศวร ประจำปีการศึกษา 2566 วันที่ 11 มีนาคม 2568

รายละเอียดข่าว

     พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์พระราชทานปริญญาบัตร แก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยนเรศวร ประจำปีการศึกษา 2566 ระหว่างวันที่ 11 – 12 มีนาคม 2568 ณ หอประชุมมหาราช อาคารอุทยานองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช มหาวิทยาลัยนเรศวร อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก

     วันที่ 11 มีนาคม 2568  ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์ประสิทธิ์ วัฒนาภา นายกสภามหาวิทยาลัยนเรศวร  รองศาสตราจารย์ ศรินทร์ทิพย์ แทนธานี รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร บุคลากร และนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร เฝ้ารับเสด็จฯ ณ อาคารอุทยานองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช มหาวิทยาลัยนเรศวร

     ในการนี้ ได้พระราชทานปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ประจำปีการศึกษา 2566 แก่ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ สมจิต หนุเจริญกุล ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาพยาบาลศาสตร์ และ Mrs.Cynthiakah (ซินเทียค่า) ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาอาเซียนศึกษา

     ทั้งนี้ มีผู้สำเร็จการศึกษา ระดับปริญญาเอก โท และตรี เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร ในวันแรก คือ วันที่ 11 มีนาคม 2568 จำนวนทั้งสิ้น 2,352 คน จาก 9 คณะ 2 วิทยาลัย ได้แก่ บัณฑิตวิทยาลัย คณะทันตแพทยศาสตร์ คณะพยาบาลศาสตร์  คณะเภสัชศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์  คณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ศิลปะและการออกแบบ คณะสหเวชศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ คณะสาธารณสุขศาสตร์ และ วิทยาลัยนานาชาติ

     โอกาสนี้ พระราชทานพระราโชวาทความตอนหนึ่งว่า

     “บัณฑิตเมื่อสำเร็จการศึกษา และก้าวเข้าสู่สังคมแห่งการทำงาน ย่อมจะต้องพบปะผู้คนที่หลากหลาย ทำให้ต้องปรับตัวเพื่อให้สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างราบรื่น คุณธรรมสำคัญประการหนึ่ง ที่จะช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดีดังกล่าว ได้แก่ ความอ่อนน้อมถ่อม ผู้ที่มีความอ่อนน้อมถ่อมตนนั้น คือผู้ที่ตระหนักถึงตนเองตามเป็นจริง ว่ายังมีความบกพร่องและความไม่รู้ในบางเรื่องบางสิ่งอยู่เป็นธรรมดา จำเป็นต้องทำตัวให้พร้อมที่จะเรียนรู้จากผู้อื่น เพื่อพัฒนาตนเองให้ดียิ่งขึ้นอยู่เสมอ ด้วยเหตุนี้ บุคคลผู้มีความอ่อนน้อมถ่อมตน จึงเป็นผู้มีสัมมาคารวะ ประพฤติปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยความเคารพให้เกียรติ ไม่โอ้อวดยกตัวหรือกล่าวโทษลบหลู่ผู้ใด ทำให้เป็นที่รักใคร่เมตตา รวมทั้งได้รับความร่วมมือสนับสนุน และความช่วยเหลือเกื้อกูลโดยเต็มใจยินดีจากทุกคนทุกฝ่าย จึงขอให้บัณฑิตพึงพิจารณา และตั้งใจพยายามฝึกฝนอบรมตนเองให้มีความอ่อนน้อมถ่อมตนเป็นปกตินิสัย เพราะนอกจากจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลเป็นไปด้วยดีแล้ว ยังจะมีส่วนช่วยให้สังคมเกิดความสมานฉันท์ หลีกเลี่ยงความบาดหมางขัดแย้ง ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างกันได้ อันจะอำนวยประโยชน์แก่การปฏิบัติหน้าที่การงานของแต่ละคนตลอดจนการพัฒนาประเทศชาติให้เจริญมั่นคงอีกด้วย”

     ด้วยเป้าหมายของการเป็นมหาวิทยาลัยเพื่อสังคมของผู้ประกอบการ หรือ University for Entrepreneurial Society  ซึ่งหมายถึงสังคมที่ใช้ “ความรู้” เป็นหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การจ้างงาน และการแข่งขันในตลาดโลก มหาวิทยาลัยนเรศวรจึงให้ความสำคัญกับการพัฒนากำลังคนที่มีสมรรถนะสูงและสร้างความพร้อมให้กับกำลังคนของประเทศในการก้าวสู่ตลาดแรงงานสากล ด้วยการปลูกฝังแนวคิดในการเป็นผู้ประกอบการ นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้นิสิตได้เรียนรู้ข้ามวัฒนธรรมโดยการเข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และสร้างเครือข่ายกับนานาอารยประเทศทั่วโลก โดยในปีการศึกษา 2566 มีนิสิตจำนวน 336 คน ที่ได้รับโอกาสในการพัฒนาร่วมกับ 26 ประเทศทั่วโลก  นอกจากนั้นมหาวิทยาลัยนเรศวรยังให้ความสำคัญในการพัฒนาและยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการในพื้นที่ โดยในปี 2566 – 2567 มีผู้ประกอบการจำนวนทั้งสิ้น 95 ราย ที่เข้าร่วมการบ่มเพาะกับมหาวิทยาลัย ผ่านกลไกการทำงานร่วมกันของภาคีเครือข่าย นอกจากนี้ยังมีกลไกแพลตฟอร์มการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมเพื่อยกระดับสินค้าชุมชน ด้วยการใช้ Soft Power เป็นเครื่องมือผสมผสานองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์และสินค้าชุมชนในพื้นที่ไปสู่ตลาดทั่วโลก

     ความโดดเด่นของงานพระราชพิธีพระราชทานปริญญาบัตรในครั้งนี้ มหาวิทยาลัยได้ใช้ Soft Power เป็นเครื่องมือในการออกแบบการตกแต่งเวทีและแท่นรับพระราชทานปริญญาบัตร บนพื้นฐานแนวคิดแบบ Glocal คือการเชื่อมโยงความสามารถในการประดิษฐ์และพัฒนาผลิตภัณฑ์อันเป็นอัตลักษณ์ของชุมชนในพื้นที่ (Local) เข้ากับความทันสมัยในระดับสากล (Global) ด้วยการผสมผสานระหว่างมรดกวัฒนธรรม (Cultural Heritage) วัฒนธรรมร่วมสมัย (Contemporary Culture) และนวัตกรรม (Innovation) ทั้งนี้ได้นำเสนอแนวความคิดภายใต้ผลงานที่ใช้ชื่อว่า “นเรศวรวิชชาลัย เป็นไทจากอวิชชา” เป็นภาพสะท้อนของความเป็นมหาวิทยาลัยนเรศวร สถาบันการศึกษาที่สร้างองค์ความรู้เพื่อให้เกิดความตื่นรู้ของบัณฑิตจากอวิชชาทั้งมวล โดยนำงานยุทธศิลป์ในสมัยอยุธยาตอนกลาง และงานศิลปกรรมแขนงต่าง ๆ ที่มีความเกี่ยวเนื่องกับรัชสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเป็นแกนหลักในการดำเนินงาน ส่วนสำคัญที่สุดของการออกแบบในครั้งนี้คือ พระแท่นที่ประทับ โดยได้นำรูปแบบของพระที่นั่งพุดตานคชาธาร หรือพระที่นั่งสัปคับอันเป็นพระแท่นประจำหลังช้าง สำหรับพระมหากษัตริย์ประทับในการออกราชการสงคราม อีกทั้งยังมีลายประดับอื่น ๆ ได้แก่ รูปหน้ากาล หรือ หน้าสิงห์ ที่ปรากฏในงานเครื่องรบสมัยอยุธยาอันได้รับอิทธิพลจากจีนโดยนำหลักฐานทางศิลปกรรมต่าง ๆ ได้แก่ รูปสลักทวารบาลประจำบานประตูกำแพงแก้วเบื้องหน้าพระพุทธชินราช ตลอดจนชิ้นส่วนธรรมมาสน์ วัดใหม่อภัยยารามอันเป็นงานศิลปกรรมในสมัยอยุธยาตอนกลางที่ปรากฏในเมืองพิษณุโลก โดยแนวคิดในการออกแบบทั้งหมดนี้สื่อถึงองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ให้มีความงดงามสมพระเกียรติ และจุดเด่นของการรังสรรค์งานชิ้นนี้ เกิดขึ้นจากความร่วมแรงร่วมใจของ บุคลากรมหาวิทยาลัยนเรศวร นิสิต ศิษย์เก่า ตลอดจนประชาชนในพื้นที่ตำบลท่าโพธิ์ซึ่งเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัย

« ของ 2 »

Loading

Share the Post:

Upcoming Event

Next Upcoming Event
23 เมษายน 2025
  • 00

    days

  • 00

    hours

  • 00

    minutes

  • 00

    seconds

ติดตามเราได้ที่ : Facebook Fanpage

กิจกรรมมหาวิทยาลัย

No event found!
ข่าวอื่นๆ
Translate »
Secured By miniOrange