มหาวิทยาลัยนเรศวร : Naresuan University
มหาวิทยาลัยนเรศวร
ศึกษาต่อมหาวิทยาลัยนเรศวรต้องทำอย่างไร ?
สามารถเข้ามาศึกษารายละเอียดได้ที่
หรือสอบถามเพิ่มเติม หน่วยรับเข้าศึกษา โทร. 0 559 68304, 0 5596 8305, 0 5596 8309
E-mail: nuadmission@nu.ac.th
สามารถติดตามข่าวสารทุนการศึกษาได้ที่ไหนบ้าง
สามารถติดตามข่าวสารทุนการศึกษาได้ที่ เว็บไซต์กองกิจการนิสิต
มหาวิทยาลัยนเรศวรมีหอพักสำหรับนิสิตหรือไม่?
มหาวิทยาลัยนเรศวรมีหอพักสำหรับนิสิตปี 1 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
กองกิจการนิสิต โทร 0 5596 1284-90
จบ ปวช. และ ปวส. สามารถสมัครเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยนเรศวรได้หรือไม่?
กรณี จบ ปวช. และ ปวส. สามารถสมัครเข้าศึกษาได้ ใน TCAS รอบที่ 3 Admission แต่ผู้สมัครจะต้องมีคะแนนการสอบ O-NET และคะแนนการสอบ GAT/PAT ตามเกณฑ์ที่แต่ละสาขาวิชากำหนด
คำถามเกี่ยวกับทะเบียนนิสิต : กองบริการการศึกษา
นิสิตไม่ได้ลงทะบียนเรียนในเวลาที่กำหนด
นิสิตสามารถลงทะเบียนล่าช้าได้อีก 2 สัปดาห์นับจากวันเปิดภาคเรียน แต่มีค่าปรับวันละ 25 บาท ตามประกาศฯ
สามารถดำเนินการผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตภายใน 2 สัปดาห์จากวันเปิดภาคเรียน เมื่อนิสิตลงทะเบียนเพิ่ม – ถอนรายวิชาจนพอใจแล้วให้พิมพ์ใบแจ้งยอดชำระเงินไปชำระเงินตาม – วัน เวลาที่กำหนด (ประมาณ 1 สัปดาห์)
นิสิตจะต้องทำคำร้องขอคืนสภาพและลงทะเบียนเรียนล่าช้าภายใน 5 สัปดาห์ นับจากวันพ้นกำหนดการชำระเงิน โดยใช้เอกสารคำร้อง NU7 พร้อมชำระค่าปรับตามประกาศของมหาวิทยาลัยในการขอลงทะเบียนล่าช้าที่กองคลัง
ลงทะเบียนไม่ได้เพราะต้องการลงมากกว่าเกณฑ์ที่ข้อบังคับกำหนด
ต้องรีบดำเนินการเขียนคำร้อง NU 18 ผ่านอาจารย์ที่ปรึกษาและคณบดี ตามลำดับ โดยให้นิสิตระบุหน่วยกิตรวมที่ขอเพิ่มรวมเป็นกี่หน่วยกิต พร้อมเหตุผล เพื่อเป็นข้อมูลในการตรวจสอบ
การขอเพิ่มจำนวนผู้เรียนในรายวิชาที่ต้องการลงทะเบียน
ให้นิสิตดำเนินการยื่นคำร้อง NU 6 ผ่านอาจารย์ที่ปรึกษาและคณบดีต้นสังกัด (ให้ความเห็นและลงนาม) หลังจากนั้นเสนอต่ออาจารย์ผู้สอน ภาควิชาและต้นสังกัดรายวิชา (ให้ความเห็นและลงนาม) แล้วจัดส่ง NU 6 ที่คณะต้นสังกัดรายวิชา เพื่อให้คณะสำรองที่นั่งในรายวิชาในระบบจัดตารางเรียนต่อไป
หมายเหตุ กรณีอยู่ในช่วงการลงทะเบียน เพิ่ม-ถอน รายวิชา ให้นิสิตดำเนินการเพิ่มรายวิชาบนระบบทะเบียนออนไลน์ แต่หากพ้นช่วงการลงทะเบียนเรียน เพิ่ม-ถอนรายวิชาแล้ว ให้นิสิตยื่นคำร้อง NU 8 พร้อมแนบคำร้อง NU 6 เพื่อขอลงทะเบียนเรียนเพิ่มโดยมีค่าปรับเป็นรายสัปดาห์
* ทั้งนี้ ยกเว้นรายวิชาศึกษาทั่วไปเนื่องจากการสำรองจำนวนผู้เรียนรายวิชาศึกษาทั่วไป จะสำรองจำนวนตามแผนการเรียนตามแผนการศึกษาของแต่ละหลักสูตร *
การลงทะเบียนเรียนซ้ำ
นิสิตต้องติดต่อผู้สอน โดยใช้คำร้อง NU 6 เพื่อให้ผู้สอนอนุญาตและเพิ่มจำนวนนิสิตในหมู่เรียนหรือรหัสหลักสูตรของนิสิต โดยยื่น NU 6 ที่คณะต้นสังกัดรายวิชา เพื่อให้คณะสำรองที่นั่งรายวิชาในระบบจัดตารางเรียน จากนั้น นิสิตดำเนินการลงทะเบียนผ่านระบบทะเบียนออนไลน์ต่อไป
การลงทะเบียนเรียนผิดเงื่อนไข
อาจารย์ที่ปรึกษาและนิสิตควรศึกษาหลักสูตรรายวิชา ในกรณีที่รายวิชานั้น ๆ กำหนดให้มีวิชาบังคับก่อนนิสิตต้องเรียนและต้องสอบผ่านได้ระดับขั้น D ขึ้นไปจึงสามารถเรียนวิชาต่อเนื่องได้
นิสิตที่ย้ายคณะ ย้ายสาขาวิชาเอก หรือนิสิตที่ได้รับอนุมัติให้เทียบโอนรายวิชา, นิสิตที่ตกแผน ไม่สามารถลงทะเบียนเรียนได้
แนวทางแก้ไข
– นิสิตที่ต้องการย้ายคณะและสาขาวิชา ควรจะดำเนินการยื่นคำร้องให้เสร็จสิ้นก่อนวันลงทะเบียนเรียนที่มหาวิทยาลัยนเรศวรกำหนดอย่างน้อย 4 สัปดาห์ เพื่อจักได้มีเวลาในการวางแผนการเรียน การลงทะเบียนและติดต่อผู้สอนได้ทันการ
– นิสิตต้องศึกษาแผนการเรียน หลักสูตรของตนเองจากคู่มือนิสิต ตรวจสอบรายวิชาที่เปิดสอนที่ระบบทะเบียนออนไลน์ www.reg.nu.ac.th พร้อมทั้งตรวจสอบว่ารายวิชาหรือหมู่เรียนนั้นเปิดไว้ให้กับนิสิตคณะใดหรือหลักสูตรใด
– หากมีรายวิชาที่เปิดสอนในระบบทะเบียนออนไลน์ www.reg .nu.ac.th แต่ไม่สามารถลงทะเบียนเรียนได้ เนื่องจากไม่ได้สำรองให้หลักสูตรของนิสิต ให้นิสิตดำเนินการยื่นคำร้อง NU 6 ผ่านอาจารย์ที่ปรึกษาและคณบดีต้นสังกัด (ให้ความเห็นและลงนาม) หลังจากนั้นเสนอต่ออาจารย์ผู้สอน ภาควิชาและต้นสังกัดรายวิชา (ให้ความเห็นและลงนาม) แล้วจัดส่ง NU 6 ที่คณะต้นสังกัดรายวิชา เพื่อให้คณะสำรองที่นั่งในรายวิชาในระบบจัดตารางเรียนต่อไป
หมายเหตุ กรณีอยู่ในช่วงการลงทะเบียน เพิ่ม-ถอน รายวิชา ให้นิสิตดำเนินการเพิ่มรายวิชาบนระบบทะเบียนออนไลน์ แต่หากพ้นช่วงการลงทะเบียนเรียน เพิ่ม-ถอนรายวิชาแล้ว ให้นิสิตยื่นคำร้อง NU 8 พร้อมแนบคำร้อง NU 6 เพื่อขอลงทะเบียนเรียนเพิ่มโดยมีค่าปรับเป็นรายสัปดาห์
– นิสิตควรดำเนินการติดต่อคณะต้นสังกัดรายวิชาตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อดำเนินการขอเปิดรายวิชาหรือขอเปิดหมู่เรียนเพิ่มหรือขอเปลี่ยนแปลงรหัสหมู่เรียนหรือขอเปลี่ยนแปลงจำนวนผู้เรียนก่อนวันลงทะเบียน เพื่อจักได้ลงทะเบียนเรียนในเวลาที่มหาวิทยาลัยกำหนดได้ทัน
นิสิตไม่รู้ว่าผลการเรียนพ้นสภาพเป็นนิสิต ตามข้อบังคับ
มหาวิทยาลัยจะจำแนกสภาพนิสิต เมื่อสิ้นสุดทุกภาคการศึกษา สำหรับผลการเรียนภาคฤดูร้อนจะนำไปรวมกับผลการเรียนในภาคการศึกษาต่อไป ที่นิสิตลงทะเบียนเรียนยกเว้นนิสิตที่สำเร็จการศึกษาในภาคฤดูร้อน นิสิตปกติ ต้องมีผลการเรียน 2.00 ขึ้นไป นิสิตรอพินิจ คือนิสิตที่มีผลการเรียนสะสมต่ำกว่า 2.00 การคิดสภาพนิสิตจากผลการเรียน
– ถ้านิสิตเรียนมาแล้วครบสองภาคการศึกษาปกติแล้วผลการเรียนไม่ถึง 1.50 พ้นสภาพนิสิต
– ถ้านิสิตเรียนมาแล้วครบสี่ภาคการศึกษาปกติ ผลการเรียนสะสมไม่ถึง 1.75 พ้นสภาพนิสิต
– และถ้านิสิตที่เรียนมาแล้วสี่ภาคการศึกษาปกติขึ้นไป ผลการเรียนไม่ถึง 1.75 พ้นสภาพนิสิต
แนวทางแก้ไข
– นิสิตและอาจารย์ที่ปรึกษา สามารถใช้บริการระบบทะเบียนออนไลน์ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในการเรียกใช้ข้อมูลของงานทะเบียนนิสิตและประมวลผล อาจารย์ที่ปรึกษาสามารถเรียกข้อมูลนิสิต เพื่อตรวจสอบการลงทะเบียนเรียน ผลการเรียนตรวจสอบจบ ข้อมูลประวัตินิสิต สามารถควบคุมการลงทะเบียนและส่งข้อความถึงนิสิตได้
– กรณีตรวจสอบผลการเรียน ทั้งนิสิตและอาจารย์ที่ปรึกษาสามารถดูผลการเรียนได้ มีทั้งข้อมูลรายภาคการศึกษา หรือทั้งหมดตั้งแต่เข้าศึกษาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งนิสิตและอาจารย์ที่ปรึกษาสามารถเลือกใช้โปรแกรมทดลอบเกรด สำหรับรายวิชาที่กำลังศึกษาอยู่ เพื่อทดลองคำนวณ GPA เพื่อเป็นการวางแผนการเรียนต่อไป
นิสิตไม่รู้ว่าได้รับผลการเรียนอักษร I,P,U ไม่สามารถสำเร็จการศึกษาในภาคเรียนที่ยื่นขอสำเร็จการศึกษา และต้องยื่นขอสำเร็จการศึกษาใหม่ ตามข้อบังคับ
นิสิตที่คาดว่าจะสำเร็จการศึกษา ต้องยื่นแบบขอสำเร็จการศึกษาภายใน 4 สัปดาห์นับจากวันเปิดภาคเรียน ปัญหาคือ นิสิตที่เคยยื่นแล้วแต่ไม่สามารถสำเร็จการศึกษาได้โดยมีสาเหตุมาจากได้รับอักษร I,P หรือ U หรือผลการเรียนติดอักษร I,P หรือ U หรือผลการเรียนไม่ถึง 2.00 ในภาคเรียนถัดไปที่ต้องแก้ไขผลการเรียน I,P หรือ U หรือ ลงทะเบียนรายวิชานั้น นิสิตไม่ได้ยื่นขอสำเร็จการศึกษาใหม่ทำให้ไม่สามารถสำเร็จการศึกษาได้
แนวทางแก้ไข
ในภาคเรียนใดที่นิสิตคาดว่าจะสำเร็จการศึกษา ต้องยื่นขอสำเร็จการศึกษาในเวลาที่กำหนดถ้าไม่สำเร็จการศึกษาก็ต้องยื่นใหม่ซ้ำอีก จนกว่าจะสำเร็จการศึกษาในกรณีที่แก้ไขอักษร I,P นิสิตต้องรีบดำเนินการติดต่ออาจารย์ผู้สอนเพื่อขอแก้ไขอักษร I,P ทั้งนี้การยื่นขอแก้ไขอักษร I,P และยื่นขอสำเร็จการศึกษาใหม่ นิสิตจะต้องมีสถานภาพการเป็นนิสิต ดังนั้นนิสิตจะต้องลงทะเบียนรักษาสภาพนิสิต ตามระเบียบด้วย
ชื่อสกุลไม่ถูกต้อง
แนวทางการแก้ไข
นิสิตควรเข้าไปตรวจสอบประวัตินิสิต ใน www.reg.nu.ac.th ว่าถูกต้องหรือไม่ หากไม่ถูกต้อง ให้รีบแจ้งงานทะเบียนนิสิตฯ เพื่อแก้ไขให้ถูกต้อง เพื่อเอกสารสำคัญทางการศึกษาที่ออกให้กับนิสิตเวลาที่สำเร็จการศึกษาจักได้ถูกต้อง
รายวิชาหมวดวิชาเลือกเสรี
แนวทางแก้ไข
หมวดวิชาเลือกเสรี เป็นรายวิชาที่เปิดโอกาสให้นิสิตเลือกเรียนวิชาใด ๆ ในหลักสูตรปริญญาตรี ยกเว้นรายวิชาหมวดวิชาศึกษาทั่วไป ทั้งนี้เพื่อให้นิสิตได้ขยายความรู้ทางวิชาการให้กว้างขวางออกไป เพื่อเป็นการส่งเสริมความถนัด ความสนใจของนิสิตมากยิ่งขึ้น โดยกำหนดให้เรียนไม่น้อยกว่า 6 หน่วยกิต
นิสิตไม่ลงทะเบียนเรียนตามที่แผนการเรียนในหลักสูตรกำหนด
ทั้งนี้อาจเนื่องมาจากในแผนการเรียนตามหลักสูตรของนิสิตส่วนใหญ่กำหนดให้นิสิตต้องเรียนรายวิชาศึกษาทั่วไปและพื้นฐานเฉพาะด้านให้เสร็จสิ้นภายในชั้นปีที่ 2 แต่นิสิตบางคนมีความสามารถเฉพาะทางในสาขาวิชาของตน ต้องการที่จะเรียนวิชาเฉพาะสาขาก่อน โดยไม่สนใจวิชาพื้นฐานหรือสนใจแผนการเรียนที่กำหนดในหลักสูตร พยายามที่จะลงทะเบียนเรียนในรายวิชาที่ตนเองชอบหรือต้องการจะเรียนก่อน ส่งผลให้ต้องตกแผนการเรียน สร้างความยุ่งยากในการจัดตารางเรียน โดยเฉพาะวิชาเฉพาะสาขา หากคณะใดมีนิสิตที่ตกแผนการเรียนจำนวนมาก การบริหารจัดการรายวิชาหรือการจัดตารางเรียนจะประสบกับปัญหายุ่งยาก บางครั้งต้องเปิดหมู่เรียนใหม่ เพื่อนิสิตที่ตกแผนการเรียนโดยเฉพาะ นับว่าเป็นปัญหาต่อการบริหารจัดการอย่างยิ่ง
แนวทางแก้ไข
สำหรับปัญหานิสิตไม่ลงทะเบียนเรียนตามที่แผนการเรียนในหลักสูตรกำหนด จากการสังเกตจะพบว่ามีเพียงบางคณะเท่านั้นที่เกิดปัญหาดังกล่าว ดังนั้น หากคณะต้นสังกัดต้องการที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าว อาจจะกระทำได้โดยไม่ยาก เพียงแต่ต้องติดตามการลงทะเบียนของนิสิตตั้งแต่ชั้นปีที่ 1 อย่างใกล้ชิด พบปะนิสิตเพื่อให้คำปรึกษา และแนะนำในด้านการลงทะเบียนและการเรียนของนิสิตให้บ่อยครั้ง จะช่วยให้คณะบริหารจัดการได้ง่ายขึ้น ดังเช่นบางคณะที่มีการบริหารจัดการในลักษณะดังกล่าวอย่างสม่ำเสมอ มีการพบนิสิต แนะนำนิสิต ให้คำปรึกษาอยู่ตลอดเวลาพบว่าคณะนั้น ๆ ไม่ประสบกับปัญหาการตกแผนการเรียนของนิสิต หรือหากมีก็จะพบว่าน้อยมากเมื่อเปรียบเทียบกับคณะที่ปล่อยให้นิสิตลงทะเบียนตามความต้องการของนิสิต โดยไม่คำนึงถึงแผนการเรียนและหลักสูตร
คำถามเกี่ยวกับหลักสูตร : กองบริการการศึกษา
หลักสูตรใหม่/หลักสูตรปรับปรุง
Q : การขอบรรจุหลักสูตรใหม่ไว้ในแผนพัฒนาการศึกษามหาวิทยาลัยนเรศวร ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2565 - 2569) ต้องนำเสนอที่ประชุมอะไรบ้าง
A : ต้องเสนอที่ประชุม ดังนี้
- ที่ประชุมคณะกรรมการวิชาการ
- ที่ประชุมสภาวิชาการ
- ที่ประชุมสภามหาวิทยาลัย
Q : การปรับปรุงหลักสูตรจะเริ่มดำเนินการเมื่อใด
A : วงรอบการปรับปรุงหลักสูตร คือ 5 ปีหลังจากการเปิดการเรียนการสอน แต่สามารถปรับปรุงหลักสูตรก่อนวงรอบได้ โดยนับจากหน้าเล่ม มคอ.2 ว่าเป็นหลักสูตรใหม่/ปรับปรุง พ.ศ. อะไร
Q : จะเริ่มสร้างหลักสูตรใหม่หรือปรับปรุงหลักสูตรควรเริ่มอย่างไร
A : 1. สำรวจความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholder’s Needs) โดยเขียนแสดงวิธีการกำหนดกลุ่มเป้าหมายคือใคร (Who) มีวิธีการสำรวจ เก็บข้อมูล อย่างไร (How) และสรุปข้อมูลว่าแต่ละกลุ่มเป้าหมายมีความต้องการอะไร (What) เพื่อมากำหนดผลการเรียนรู้ของหลักสูตร Program Learning Outcomes (PLOs)
2. จัดทำในลักษณะบทสรุปผู้บริหาร (Executive Summary) สรุปประเด็น การกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน วิธีการเก็บข้อมูลในแต่ละกลุ่มทำอย่างไร การสรุปข้อมูลที่ได้จากแต่ละกลุ่ม การสรุปประเด็นที่เหมือนกันของแต่ละกลุ่มและเชื่อมโยงกับ PLOs และการออกแบบโครงสร้างหลักสูตร รายวิชา
3.การกำหนดผลลัพธ์การเรียนรู้ของหลักสูตร PLOs ไม่ควรเกิน 10 PLOs
Q : หลักสูตรระดับปริญญาตรี รายวิชาศึกษาทั่วไปจะใช้เล่มใดบ้าง
A : – หลักสูตรใหม่/ปรับปรุง พ.ศ. 2565 ใช้หมวดวิชาศึกษาทั่วไป ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2563
– หลักสูตรใหม่/ปรับปรุง พ.ศ. 2566 ใช้หมวดวิชาศึกษาทั่วไป ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2566
– หลักสูตรใหม่/ปรับปรุง พ.ศ. 2567 ใช้หมวดวิชาศึกษาทั่วไป ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2567
Q : การเรียงรหัสคำอธิบายรายวิชา ให้เรียงแบบใด
A : การเขียนคำอธิบายรายวิชา มีดังนี้ ให้เรียงรหัสวิชาจากเลขน้อยไปหามาก คำอธิบายภาษาไทย ไม่ควรมีสัญลักษณ์ หรือ เครื่องหมายวรรคตอน ในคำอธิบายภาษาอังกฤษใช้เครื่องหมาย ( ; ) ใช้แบ่งประโยค ( , ) ใช้แบ่งคำ และ ( : ) ใช้ยกตัวอย่าง เช่น
Q : ประเภทของหลักสูตรระดับปริญญาตรี ตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับปริญญาตรี พ.ศ. 2565 มีอะไรบ้าง
A : 1. หลักสูตรปริญญาตรีทางวิชาการ แบ่งเป็น 2 แบบ ได้แก่
- หลักสูตรปริญญาตรีทางวิชาการ
- หลักสูตรปริญญาตรีแบบก้าวหน้าทางวิชาการ
2. หลักสูตรปริญญาตรีทางวิชาชีพหรือปฏิบัติการ แบ่งเป็น 2 แบบ ได้แก่
- หลักสูตรปริญญาตรีทางวิชาชีพหรือปฏิบัติการ
- หลักสูตรปริญญาตรีแบบก้าวหน้าทางวิชาชีพหรือปฏิบัติการ
Q : ประเภทและความหมายของอาจารย์มีอะไรบ้าง
A : ตามประกาศคณะกรรมการมาตรฐานอุดมศึกษา เรื่อง เกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับปริญญาตรี
พ.ศ. 2565 และเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรรดับบัณฑิตศึกษา พ.ศ. 2565
“อาจารย์ประจำ” หมายถึง บุคคลที่ดำรงตำแหน่งอาจารย์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์
ศาสตราจารย์ และตำแหน่งอื่นที่เทียบเท่าในสถาบันอุดมศึกษาแห่งนั้นตามที่สภาสถาบันอุดมศึกษากำหนด
หรือบุคคลในองค์กรภายนอกที่มีการตกลงร่วมผลิต ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบตามพันธกิจของการอุดมศึกษา
และมีความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษา
“อาจารย์ประจำหลักสูตร” หมายถึง อาจารย์ประจำที่มีคุณวุฒิตรงหรือสัมพันธ์กับสาขาวิชา
ของหลักสูตรที่สภาสถาบันอุดมศึกษาเห็นชอบหรืออนุมัติ มีหน้าที่สอนและค้นคว้าวิจัยในสาขาวิชา
ดังกล่าว ทั้งนี้ สามารถเป็นอาจารย์ประจำหลักสูตรหลายหลักสูตรได้ในเวลาเดียวกัน
“อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร” หมายถึง อาจารย์ประจำหลักสูตรที่มีภาระหน้าที่ในการบริหาร
และพัฒนาหลักสูตรและการเรียนการสอน ตั้งแต่การวางแผน การควบคุมคุณภาพ การติดตามประเมินผล
และการพัฒนาหลักสูตร อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรต้องอยู่ประจำหลักสูตรนั้นตลอดระยะเวลา
ที่จัดการศึกษา โดยจะเป็นอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรเกินกว่า ๑ หลักสูตรในเวลาเดียวกันไม่ได้
ยกเว้น หลักสูตรพหุวิทยาการหรือสหวิทยาการ ให้เป็นอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรได้อีกหนึ่งหลักสูตร
ในกรณีนี้ อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรสามารถซ้ำได้ไม่เกิน ๒ คน และปริญญาโท-เอก ที่มีสาขาวิชาเดียวกันสามารถซ้ำกันได้
“อาจารย์พิเศษ” หมายถึง ผู้สอนที่ไม่ใช่อาจารย์ประจำ
Q : การเขียนประวัติและผลงานทางวิชาการอย่างไร เขียนรูปแบบใด
A : 1. ใช้แบบฟอร์มผลงานทางวิชาการ (แบบใหม่) ดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซด์งานพัฒนาหลักสูตรโดยให้เริ่มใช้ตั้งแต่ภาคการศึกษาต้น ปีการศึกษา 2566
- ผลงานทางวิชาการเป็นไปตามเกณฑ์ ก.พ.อ. โดยเขียนรูปแบบ American Psychological Association (APA) พร้อมระบุ (ฐานข้อมูล) ซึ่งเป็นผลงานในรอบ ๕ ปีย้อนหลัง
– ปริญญาตรี ผลงาน ๑ เรื่อง
– ปริญญาโท ผลงาน ๓ เรื่อง โดย ๑ เรื่องต้องเป็นงานวิจัย
– ปริญญาเอก ผลงาน ๓ เรื่อง ต้องเป็นงานวิจัยทั้ง ๓ เรื่อง
***Proceeding ไม่นับ***
- แต่ละหัวข้อ เรียงผลงานภาษาไทยขึ้นก่อน ต่อด้วยผลงานภาษาอังกฤษ
- แต่ละหัวข้อ เรียงจากปี (พ.ศ. ๒๕๖๖ →๒๕๖๒) หรือ (ค.ศ. ๒๐๒๓ → ๒๐๑๙)
กรณี ปีที่ตีพิมพ์ผลงานเป็นปีเดียวกัน ให้เรียงอักษรตัวแรกของชื่อผู้แต่งคนที่ ๑ - เรียงผลงานทางวิชาการตามตารางรายชื่ออาจารย์ประจำหลักสูตร
กรณี อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร ให้ระบุเครื่องหมาย * ต่อท้ายชื่ออาจารย์ และ ระบุ “หมายเหตุ * หมายถึง อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร” ท้ายกระดาษ
กรณี อาจารย์ใหม่ ให้ระบุ “หมายเหตุ อาจารย์ใหม่ (บรรจุเมื่อวันที่/เดือน/ปี)”ท้ายกระดาษ
Q : แต่ละหลักสูตรควรกำหนดคุณสมบัติผู้เข้าศึกษาอย่างไร
A : คุณสมบัติผู้เข้าศึกษา อ้างอิงตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับปริญญาตรี พ.ศ. 2565 และข้อบังคับมหาวิทยาลัยนเรศวร ว่าด้วย การศึกษาระดับ…. พ.ศ. 2565 กรณี มีความแตกต่างจากข้อบังคับฯ ให้ระบุเป็นข้อๆ สั้น กระชับ เปิดโอกาสสำหรับผู้ที่สนใจเข้าศึกษา
Q : โครงการสัมฤทธิบัตร/หลักสูตรระยะสั้น/หลักสูตรประกาศนียบัตร คืออะไร
A : มหาวิทยาลัยมีนโยบายส่งเสริมและเปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปที่ต้องการเพิ่มพูนความรู้ สามารถเข้าถึงองค์ความรู้และบริการทางวิชาการของมหาวิทยาลัยนเรศวร สนับสนุนในลักษณะ Lifelong Learning การจัดการศึกษาแบบไม่รับปริญญา และสามารถสะสมผลการเรียนไว้ในคลังหน่วยกิต (Credit Bank) ดังนี้
- โครงการสัมฤทธิบัตร (ระดับปริญญาตรี) (ระดับบัณฑิตศึกษา) และ (โครงการสัมฤทธิบัตรสำหรับบุคคลภายนอก) โดยที่จะให้มานั่งเรียนในชั้นเรียนร่วมกับนิสิตปริญญาตรี ซึ่งจะเริ่มดำเนินการภายในภาคการศึกษาปลาย ปีการศึกษา 2565
- หลักสูตรอบรมระยะสั้น (Short Course Training) รูปแบบบริการวิชาการ
- หลักสูตรประกาศนียบัตร (Non-Degree)
Q : โครงการสัมฤทธิบัตร/หลักสูตรระยะสั้น/หลักสูตรประกาศนียบัตร คืออะไร
A : มหาวิทยาลัยมีนโยบายส่งเสริมและเปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปที่ต้องการเพิ่มพูนความรู้ สามารถเข้าถึงองค์ความรู้และบริการทางวิชาการของมหาวิทยาลัยนเรศวร สนับสนุนในลักษณะ Lifelong Learning การจัดการศึกษาแบบไม่รับปริญญา และสามารถสะสมผลการเรียนไว้ในคลังหน่วยกิต (Credit Bank) ดังนี้
- โครงการสัมฤทธิบัตร (ระดับปริญญาตรี) (ระดับบัณฑิตศึกษา) และ (โครงการสัมฤทธิบัตรสำหรับบุคคลภายนอก) โดยที่จะให้มานั่งเรียนในชั้นเรียนร่วมกับนิสิตปริญญาตรี ซึ่งจะเริ่มดำเนินการภายในภาคการศึกษาปลาย ปีการศึกษา 2565
- หลักสูตรอบรมระยะสั้น (Short Course Training) รูปแบบบริการวิชาการ
- หลักสูตรประกาศนียบัตร (Non-Degree)